ทนายดังพร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยงานรัฐร่วมตรวจสอบคอรโดหรูย่านลาดพร้าว


สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน พร้อมด้วยทนายอนันต์ชัย ไชยเดช  เจ้าหน้าที่กรมโยธาธิการและผังเมือง กรมที่ดิน สำนักงานเขตบางกะปิ และเจ้าหน้าที่ภาครัฐที่เกี่ยวข้อง เดินทางเข้าตรวจสอบคอนโดฯแห่งหนึ่งภายในซอยลาดพร้าว 130



ร.ต.ต.พงศกร มีพันธุ์ เจ้าหน้าที่สอบสวน สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน พร้อมด้วยทนายอนันต์ชัย ไชยเดช พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่กรมโยธาธิการและผังเมือง กรมที่ดิน สำนักงานเขตบางกะปิ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งภายในซอยลาดพร้าว 130 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ ที่เกิดการฟ้องร้องระหว่างลูกบ้านกับบริษัทเจ้าของโครงการในข้อหาฉ้อโกงประชาชน หลังมีการก่อสร้างและโฆษณาขายไม่ตรงตามที่จดทะเบียนจัดตั้งไว้




โดยทนายอนันต์ชัย เปิดเผยว่า คดีนี้เริ่มต้นจากผู้เสียหายรายหนึ่งซื้ออาคารชุดด้านล่าฝที่มีการโฆษณาว่าสามารถเปิดเป็นร้านค้าและทำธุรกิจได้ โดยเปิดมาประมาณ 3 ปี นิติบุคคลของคอนโดฯ กลับบอกว่าไม่สามารถเปิดทำธุรกิจได้ เนื่องจากแบบแปลนผิดประเภท จึงเกิดการตรวจสอบพบว่าสำนักงานนิติบุคคล และห้องชุดที่เปิดเป็นบริษัทของดังกล่าวมีความสูงเพียง 2.84 เมตร ตามกฎหมายระบุว่าต้องสูงจากพื้นด้านล่างสู่พื้นด้านบนไม่ต่ำกว่า 3 เมตร นอกจากนี้ยังพบว่าเดิมทีมีการทำประชาพิจารณ์ก่อนก่อสร้างและทำ EIA (รายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม) เป็นคอนโดมิเนียมโครงการเดียว 4 อาคาร จุดรวมพลหากเกิดไฟไหม้ อาคาร A-B ต้องไปรวมกันที่อาคาร C-D และอาคาร C-D ต้องรวมกันที่อาคาร A-B แต่ปัจจุบันพบว่าคอนโดฯ ถูกแบ่งออกเป็น 2 โครงการ พร้อมกับกั้นกำแพงตรงกลาง ลูกบ้านไม่สามารถข้ามไปมาได้ ขณะเดียวกันจากการตรวจสอบสระว่ายน้ำพบว่าดำเนินการก่อสร้างผิดประเภท เนื่องจากโครงการนี้ ใน EIA ไม่มีสระน้ำและฟิตเนส จึงได้รับอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ก่อสร้างได้ แต่ในใบโฆษณากลับมีภาพของฟิตเนสและสระว่ายน้ำ ทำให้ฟิตเนสและสระว่ายน้ำปัจจุบันถูกสร้างขึ้นโดยไม่ได้รับอนุญาต และทำให้พื้นที่สีเขียวไม่ตรงตามที่ทำ EIA ไว้ สำนักโยธาธิการ เขตบางกะปิ จึงต้องสั่งปิดฟิตเนสและสระว่ายน้ำดังกล่าวตามกฎหมาย ลูกบ้านจึงได้รับความเดือดร้อนเนื่องจากมีการจ่ายค่าส่วนกลางต่อเนื่อง แต่ไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้




ทั้งนี้ ทนายดัง กล่าวอีกว่า เบื้องต้นลูกบ้านได้แจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สน.ลาดพร้าว เพื่อเอาผิดกับบริษัทเจ้าของโครงการแล้ว ในความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ และจะแจ้งความเอาผิดตาม พ.ร.บ.อาคารฯ ด้วย นอกจากนี้ จะดำเนินการเอาผิดกับเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่มีการปล่อยปละละเลยให้คอนโดมิเนียมแห่งนี้ มีการก่อสร้างขึ้นมาทั้งที่ EIA และแบบแปลนไม่ตรงตามที่มีการก่อสร้างจริง สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน

                                  -////////////////////-

ความคิดเห็น