ตม.แจง หนุ่มโพสด่าแรง ตม.ยศต่ำหลังญาติถูกกักตัว
ตม.แจง หนุ่มโพสด่าแรง ตม.ยศต่ำหลังญาติถูกกักตัว
พ.ต.อ.เชิงรณ ริมผดี รองโฆษก สตม.เปิดเผย กรณีมีการเผยแพร่ภาพผู้ใช้เฟสบุครายหนึ่ง ด่าการทำงานของเจ้าหน้าที่ จากการเชิญตัวญาติที่เดินทางกลับจาก สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นแหล่งระบาดของเชื้อโควิด 19 แซงอันดับจีน เพื่อเข้ารับการทำ State Quarantine เมื่อมาถึงไทย เป็นเวลา 14 วัน โดยใช้ถ้อยคำหยาบคาย และดูถูก จนท.ตม
กรณีดังกล่าว ขอชี้แจงว่า ทางรัฐบาล ได้ประกาศใช้ข้อกำหนดตาม พรบ.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินฯ ซึ่งได้ยกระดับให้ คนไทย และ คนต่างชาติ ต้องถูกเชิญไปพักดูอาการแบบ State Quarantine ยังสถานที่ที่ทางราชการกำหนด เป็นเวลา 14 วัน แม้จะผ่านการรับรองจากสถานทูต และมีใบรับรองสุขภาพ หรือ Fit to Fly มาจากประเทศต้นทาง และ ผ่านการวัดอุณหภูมิจากควบคุมโรคมาแล้วก็ตาม เนื่องจากกระทรวงสาธารณสุขพบว่า การติดเชื้อจากคนที่เดินทางกลับจากต่างประเทศมีจำนวนตัวเลขสูง โดยเฉพาะในรายที่พยายามใช้ยาลดไข้เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจอุณหภูมิ หรือ อยู่ในภาวะพาหะนำเชื้อโดยไม่มีอาการ
ซึ่งที่ผ่านมาในช่วงคาบเกี่ยวการเพิ่มมาตรการจาก Self Quarantine เป็น State Quarantine อาจมีข้อติดขัด จากการสื่อสาร ซึ่งได้มีการแก้ไขปัญหา โดยได้รับความร่วมมืออย่างดีจากพี่น้องคนไทย 158 ท่าน ในการกลับมารายงานตัว ครบทุกท่านเป็นอย่างดี รวมถึงพี่น้องลูกหลานคนไทยในเที่ยวบินอื่นๆที่ให้ความร่วมมือด้วยดีเช่นกัน โดยขณะนี้ ทางศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉิน หรือ EOC ภายใต้การบริหารสถานการณ์โดย พล.อ.ปริพัฒน์ ผลาสินธ์ รองเสนาธิการทหาร ได้ปรับระบบการทำงานเพื่อรองรับพี่น้องประชาชนคนไทย ให้ได้รับการคัดกรองที่ชัดเจนและสะดวกยิ่งขึ้น โดยทุกคนที่เดินทาง จะต้องลงนามรับทราบว่าตนยินดีที่จะเข้าทำ State Quarantine ทันทีเมื่อถึงไทยทุกราย ซึ่งที่ผ่านมา ได้ปรับการบริหารจัดการ ตั้งแต่ลงเครื่อง ผ่านการวัดอุณหภูมิจากควบคุมโรค ผ่านระบบคัดกรองเอกสารลงข้อมูลที่ Health Control ผ่าน ตม. และ ตำรวจ สภ.สุวรรณภูมิ จนท.รปภ.การท่าฯ จนท.ทหาร และ จนท.ขนส่ง จะรับตัวไปพักยังสถานที่ที่ทางราชการจัด ซึ่งจะมีการดูแลทางการแพทย์ และ สวัสดิการ ต่างๆ จนครบกำหนด โดยการพักดูอาการดังกล่าว ไม่ใช่การคุมขัง สามารถใช้โทรศัพท์ติดต่อสื่อสาร เล่นเน็ตต่างๆได้ตามปกติ
จึงวิงวอนให้ พี่น้องประชาชน ทั้งที่เดินทางมาไทย และญาติพี่น้องผู้ปกครองได้โปรดเข้าใจ
บางทีอาจไม่ได้รับความสะดวกเหมือนการไปพักผ่อนตากอากาศทั่วไป แต่การที่รัฐบาลใช้มาตรการดังกล่าว ก็เพื่อความปลอดภัยของตัวผู้เดินทางเอง รวมถึงญาติพี่น้องครอบครัวที่บ้านของท่านทุกคน
สำหรับกรณีการโพสดังกล่าว ทาง พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม รับทราบแล้ว ได้ฝากถึงสังคมได้โปรดเข้าใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ทุกคน ทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็น ควบคุมโรค การท่า หมอ ทหาร ตำรวจ ขนส่งหรือ ตม.ที่กำลังทำหน้าที่ที่สนามบิน ทุกคนมีความตั้งใจที่จะทำงานเพื่อสกัดกั้นการติดเชื้อให้ดีที่สุด ทุกคนมีความเสี่ยง กลับบ้านต้องแยกกิน แยกอยู่กับคนในครอบครัวทุกวัน ถึงแม้จะถูกก่นด่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย ดูถูก ซึ่งอาจจะทำลายขวัญกำลังใจผู้ปฏิบัติงาน แต่เชื่อว่า จนท.ทุกคนก็ยังคงปฏิบัติหน้าที่ด้วยความทุ่มเทต่อไป โดยย้ำว่า จนท.ยอมให้คนไม่กี่คนด่าว่า เพื่อความปลอดภัยของคนไทยเกือบ 70 ล้านคนทั่วประเทศ!!.. ส่วนการดำเนินคดี จะมีการพิจารณาโดยฝ่ายกฏหมายต่อไป
ที่สำคัญ ขอแค่เพียงสังคมให้ความร่วมมือ และอดทนต่อความไม่สะดวกในบางเรื่อง โดยให้ทุกท่านมีความปลอดภัยจากการติดเชื้อ พวก จนท ทุกคนก็ถือเป็นการให้กำลังใจให้ จนท.ทุกคนหายเหนื่อยแล้ว
ทาง จนท จึงขอความร่วมแรงร่วมใจจาก ปชช เพื่อไม่ให้แพร่เชื้อขยายวงกว้างต่อไป จากใจ จนท สตม และ อีกหลายหน่วยงานที่มีความมุ่งมั่นทำงานและเป็นห่วงพี่น้อง ปชช อย่างแท้จริง
พ.ต.อ.เชิงรณ ริมผดี รองโฆษก สตม.เปิดเผย กรณีมีการเผยแพร่ภาพผู้ใช้เฟสบุครายหนึ่ง ด่าการทำงานของเจ้าหน้าที่ จากการเชิญตัวญาติที่เดินทางกลับจาก สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นแหล่งระบาดของเชื้อโควิด 19 แซงอันดับจีน เพื่อเข้ารับการทำ State Quarantine เมื่อมาถึงไทย เป็นเวลา 14 วัน โดยใช้ถ้อยคำหยาบคาย และดูถูก จนท.ตม
กรณีดังกล่าว ขอชี้แจงว่า ทางรัฐบาล ได้ประกาศใช้ข้อกำหนดตาม พรบ.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินฯ ซึ่งได้ยกระดับให้ คนไทย และ คนต่างชาติ ต้องถูกเชิญไปพักดูอาการแบบ State Quarantine ยังสถานที่ที่ทางราชการกำหนด เป็นเวลา 14 วัน แม้จะผ่านการรับรองจากสถานทูต และมีใบรับรองสุขภาพ หรือ Fit to Fly มาจากประเทศต้นทาง และ ผ่านการวัดอุณหภูมิจากควบคุมโรคมาแล้วก็ตาม เนื่องจากกระทรวงสาธารณสุขพบว่า การติดเชื้อจากคนที่เดินทางกลับจากต่างประเทศมีจำนวนตัวเลขสูง โดยเฉพาะในรายที่พยายามใช้ยาลดไข้เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจอุณหภูมิ หรือ อยู่ในภาวะพาหะนำเชื้อโดยไม่มีอาการ
ซึ่งที่ผ่านมาในช่วงคาบเกี่ยวการเพิ่มมาตรการจาก Self Quarantine เป็น State Quarantine อาจมีข้อติดขัด จากการสื่อสาร ซึ่งได้มีการแก้ไขปัญหา โดยได้รับความร่วมมืออย่างดีจากพี่น้องคนไทย 158 ท่าน ในการกลับมารายงานตัว ครบทุกท่านเป็นอย่างดี รวมถึงพี่น้องลูกหลานคนไทยในเที่ยวบินอื่นๆที่ให้ความร่วมมือด้วยดีเช่นกัน โดยขณะนี้ ทางศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉิน หรือ EOC ภายใต้การบริหารสถานการณ์โดย พล.อ.ปริพัฒน์ ผลาสินธ์ รองเสนาธิการทหาร ได้ปรับระบบการทำงานเพื่อรองรับพี่น้องประชาชนคนไทย ให้ได้รับการคัดกรองที่ชัดเจนและสะดวกยิ่งขึ้น โดยทุกคนที่เดินทาง จะต้องลงนามรับทราบว่าตนยินดีที่จะเข้าทำ State Quarantine ทันทีเมื่อถึงไทยทุกราย ซึ่งที่ผ่านมา ได้ปรับการบริหารจัดการ ตั้งแต่ลงเครื่อง ผ่านการวัดอุณหภูมิจากควบคุมโรค ผ่านระบบคัดกรองเอกสารลงข้อมูลที่ Health Control ผ่าน ตม. และ ตำรวจ สภ.สุวรรณภูมิ จนท.รปภ.การท่าฯ จนท.ทหาร และ จนท.ขนส่ง จะรับตัวไปพักยังสถานที่ที่ทางราชการจัด ซึ่งจะมีการดูแลทางการแพทย์ และ สวัสดิการ ต่างๆ จนครบกำหนด โดยการพักดูอาการดังกล่าว ไม่ใช่การคุมขัง สามารถใช้โทรศัพท์ติดต่อสื่อสาร เล่นเน็ตต่างๆได้ตามปกติ
จึงวิงวอนให้ พี่น้องประชาชน ทั้งที่เดินทางมาไทย และญาติพี่น้องผู้ปกครองได้โปรดเข้าใจ
บางทีอาจไม่ได้รับความสะดวกเหมือนการไปพักผ่อนตากอากาศทั่วไป แต่การที่รัฐบาลใช้มาตรการดังกล่าว ก็เพื่อความปลอดภัยของตัวผู้เดินทางเอง รวมถึงญาติพี่น้องครอบครัวที่บ้านของท่านทุกคน
สำหรับกรณีการโพสดังกล่าว ทาง พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม รับทราบแล้ว ได้ฝากถึงสังคมได้โปรดเข้าใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ทุกคน ทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็น ควบคุมโรค การท่า หมอ ทหาร ตำรวจ ขนส่งหรือ ตม.ที่กำลังทำหน้าที่ที่สนามบิน ทุกคนมีความตั้งใจที่จะทำงานเพื่อสกัดกั้นการติดเชื้อให้ดีที่สุด ทุกคนมีความเสี่ยง กลับบ้านต้องแยกกิน แยกอยู่กับคนในครอบครัวทุกวัน ถึงแม้จะถูกก่นด่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย ดูถูก ซึ่งอาจจะทำลายขวัญกำลังใจผู้ปฏิบัติงาน แต่เชื่อว่า จนท.ทุกคนก็ยังคงปฏิบัติหน้าที่ด้วยความทุ่มเทต่อไป โดยย้ำว่า จนท.ยอมให้คนไม่กี่คนด่าว่า เพื่อความปลอดภัยของคนไทยเกือบ 70 ล้านคนทั่วประเทศ!!.. ส่วนการดำเนินคดี จะมีการพิจารณาโดยฝ่ายกฏหมายต่อไป
ที่สำคัญ ขอแค่เพียงสังคมให้ความร่วมมือ และอดทนต่อความไม่สะดวกในบางเรื่อง โดยให้ทุกท่านมีความปลอดภัยจากการติดเชื้อ พวก จนท ทุกคนก็ถือเป็นการให้กำลังใจให้ จนท.ทุกคนหายเหนื่อยแล้ว
ทาง จนท จึงขอความร่วมแรงร่วมใจจาก ปชช เพื่อไม่ให้แพร่เชื้อขยายวงกว้างต่อไป จากใจ จนท สตม และ อีกหลายหน่วยงานที่มีความมุ่งมั่นทำงานและเป็นห่วงพี่น้อง ปชช อย่างแท้จริง
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น