"อานนท์ แสนน่าน"ขอบคุณ"บิ๊กตู่"แทนเกษตรกรหลังพิจารณาโครงการช่วยเครือข่ายหมู่บ้านวิสาหกิจชุมชนก้าวผ่านวิกฤตโควิด-19 ตามนโยบาย"รวมไทยสร้างชาติ"
"อานนท์ แสนน่าน"ขอบคุณ"บิ๊กตู่"แทนเกษตรกรหลังพิจารณาโครงการช่วยเครือข่ายหมู่บ้านวิสาหกิจชุมชนก้าวผ่านวิกฤตโควิด-19 ตามนโยบาย"รวมไทยสร้างชาติ"
วันนี้ (26 มิถุนายน 2563) ณ ศูนย์ประสานงานเครือข่ายหมู่บ้านวิสาหกิจชุมชน เราประเทศไทย ชุมชนพรสวรรค์ ทต.หนองบัว อ.เมือง จ.อุดรธานี นายอานนท์ แสนน่าน ประธานเครือข่ายหมู่บ้านวิสาหกิจชุมชนเรารักประเทศไทย ได้กล่าวว่า ตนเองพร้อมคณะประธานแต่ละภูมิภาคและประธานจังหวัดแต่ละจังหวัดต้องขอขอบคุณ นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี และ ฯพณฯท่าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่พิจารณาเตรียมจัดสรรงบประมาณเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของ ประชาชนภายใต้ "เครือข่ายหมู่บ้านวิสาหกิจชุมชนท้องถิ่นเรารักประเทศไทย" และผลักดันโครงการช่วยเหลือเกษตรกรที่ยากจน และประสบปัญหาจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 สำหรับพื้นที่ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวม 37 จังหวัด จาก 3,058 วิสาหกิจชุมชน หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พิจารณาเห็นชอบแล้ว
ตนและคณะได้ยื่นหนังสือผ่าน นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อให้นำกราบเรียน ฯพณฯท่าน พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อขอรับการสนับสนุนและผลักดันโครงการช่วยเหลือเกษตรกรที่ยากจนและประสบปัญหาจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สำหรับเครือข่ายหมู่บ้านวิสาหกิจชุมชนท้องถิ่น เรารักประเทศไทย โดยตนเป็นประธานเครือข่ายฯ และยังเป็นผู้ประสานงานกับหมู่บ้านต่างๆ ภายในประเทศ มีสมาชิกมากกว่า 28,850 หมู่บ้าน ดำเนินการจดทะเบียนเป็น กลุ่มวิสาหกิจชุมชน 3,058 กลุ่ม และรวมกันเป็น"เครือข่าย"ที่รับผิดชอบจากสมาชิก ภาคอีสาน ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ ของประเทศไทย ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ในพื้นที่ จะประกอบอาชีพทำการเกษตร โดยเครือข่ายฯ ได้มีข้อเสนอและขอรับการสนับสนุน
ดังนี้ 1.ขอรับการสนับสนุนและผลักดันโครงการช่วยเหลือเกษตรกรที่ยากจนและประสบปัญหาจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สำหรับพื้นที่รายจังหวัดภาคเหนือ 17 จังหวัด และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 20 จังหวัด รวมจำนวน 37 จังหวัด แบ่งเป็นกลุ่มวิสาหกิจ 3,058 กลุ่ม และการจัดทำโครงการ 3,058 โครงการ โดยการส่งเสริมอาชีพเกษตรกรด้านปศุสัตว์ ด้านประมง ด้านการผลิตพืช สนับสนุนปัจจัยงาน OTOP และการเพิ่มศักยภาพและสนับสนุนปัจจัยการผลิต หมอดินอาสา สารปรับปรุงดิน การผลิตพันธุ์พืช การปลูกกัญชา-กัญชง การปลูกพืชสมุนไพร และ 2.ขอให้รัฐบาลจัดตั้ง "คณะอนุกรรมาธิการแก้ไขปัญหาความยากจนเกษตรกร" (คปจ.กษ.) ขึ้นภายใต้ของสำนักนายกรัฐมนตรี
นายอานนท์ กล่าวอีกว่า หลังจากนั้นทาง นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตัวแทน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้พิจารณาเห็นชอบและเสนอว่า การขับเคลื่อนและสร้างความเข้มแข็งให้แก่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนท้องถิ่นถือเป็นปัจจัยที่สำคัญหนึ่งที่มีบทบาทต่อเศรษฐกิจ ซึ่งจะทำให้เกิดการจ้างแรงงานในพื้นที่ สร้างรายได้ให้แก่สมาชิกที่ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกร และส่งผลต่อเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศ จึงเห็นควรมอบหมาย ดังนี้ 1 เห็นควรส่งเรื่องการขอรับการสนับสนุนและผลักดันโครงการช่วยเหลือเกษตรกรที่ยากจนและประสบปัญหาจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ผ่านไปให้ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี พิจารณาสนับสนุนภายใต้โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจหลังวิกฤตโควิด-19 เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งและเพิ่มประสิทธิภาพวิสาหกิจชุมชน ตามแผนการใช้จ่ายในวงเงิน 4 แสนล้านบาท ส่วนการจัดตั้ง "คณะอนุกรรมาธิการแก้ไขปัญหาความยากจนเกษตรกร" (คปจ.กษ.) ขึ้นภายใต้ของสำนักนายกรัฐมนตรี เห็นควรมอบหมายให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี พิจารณาดำเนินการต่อไป ทางผู้บริหาร ประธานภูมิภาค ประธานจังหวัด ประธานวิสาหกิจชุมชน และ เกษตรกร ขอขอบคุณ นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี อีกครั้งที่ช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับความเดือดร้อนในครั้งนี้
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น