งาน ThaiTAM 2019 ครั้งที่ 23 เพื่อขยายช่องทางการตลาดอุตสาหกรรมเครื่องจักรกลการเกษตรของไทยสู่ระดับสากล


งาน ThaiTAM 2019 ครั้งที่ 23 เพื่อขยายช่องทางการตลาดอุตสาหกรรมเครื่องจักรกลการเกษตรของไทยสู่ระดับสากล

เมื่อวันจันทร์ที่ 2 ธันวาคม 2562 ณ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ จับมือกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องจักรกลการเกษตร สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยและมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จัดงานมหกรรมแทรกเตอร์และเครื่องจักรกลการเกษตร 2562 หรืองาน ThaiTAM 2019 เพื่อพัฒนา ยกระดับ และขยายช่องทางการตลาดอุตสาหกรรมเครื่องจักรกลการเกษตรของไทยสู่ระดับสากล งานนี้ดึงผู้ซื้อจากต่างประเทศกว่า 45 ราย 9 ประเทศ บินตรงมาดูงานด้วยตัวเอง คาดว่าจะเกิดการสั่งซื้อสินค้าเครื่องจักรกลการเกษตรไทยไม่ต่ำกว่า 250 ล้านบาท
ดร. สรรเสริญ สมะลาภา ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ประธานในพิธีเปิดงานฯ ได้กล่าวถึงการจัดงานนี้ว่า “งาน ThaiTAM เป็นงานที่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการต่างชาติได้รู้ถึงศักยภาพในการผลิตเครื่องจักรกลของประเทศไทยซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการผลักดันการเกษตรของไทยให้ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีและเครื่องจักรที่ทันสมัย มีการเพิ่มผลผลิตและพัฒนาคุณภาพสินค้าเกษตรกรรมของไทย และต่อยอดสร้างเป็นสินค้าส่งออกที่นำเงินตรามาสู่ประเทศอีกด้วย” งานนี้ได้รับความสนใจอย่างกว้างขวางจากคนที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมการเกษตร ตั้งแต่ผู้ผลิตเครื่องจักรและเทคโนโลยี เกษตรกร ไปจนถึงนักเรียนนักศึกษา และประชาชนทั่วไปมาอย่างต่อเนื่องโดยครั้งนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 23



ทางด้าน นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า "กลุ่มผู้ประกอบการในกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องจักรกลการเกษตร สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยได้มีส่วนสำคัญในการผลักดันเครื่องจักรกลการเกษตรซึ่งเกิดจากภูมิปัญญาของไทย สามารถยกระดับจนเป็นสินค้าส่งออกสู่ตลาดต่างประเทศซึ่งกรมได้เล็งเห็นที่ศักยภาพของสินค้าและโอกาสที่จะเติบโตในตลาดโลกได้อย่างมหาศาล ในงานครั้งนี้กรมฯ จึงได้นำผู้ซื้อกว่า 38 บริษัท 45 รายจาก 9 ประเทศใน 3 ภูมิภาค ได้แก่ ไนจีเรีย
อูกันดา โมซัมบิก เคนยา แทนซาเนียฟิลิปปินส์ เวียดนาม มาเลเซียและอินเดียเข้ามาร่วมกิจกรรมจับคู่ธุรกิจกับผู้ประกอบการไทยในระหว่างวันที่ 2-4 ธันวาคม 2562 โดยเฉพาะผู้ซื้อที่เป็นผู้แทนจากกระทรวงเกษตรของประเทศโมซัมบิก ซึ่งได้ทดลองซื้อเครื่องจักรกลการเกษตรจากงาน ThaiTAM ไปใช้ติดกันได้ประมาณ 2 -3 ปีที่ผ่านมา และพอใจกับประสิทธิภาพเครื่องจักรกลการเกษตรไทยเป็นอย่างมาก ในปีนี้ได้บินมาร่วมงานอีกครั้งซึ่งคาดว่าผู้ซื้อจากต่างประเทศเหล่านี้ จะทำให้เกิดการสั่งซื้อสินค้าเครื่องจักรกลการเกษตรไทยไม่ต่ำกว่า 250ล้านบาท



ในส่วนของ นายพัฒนศักย์ ฮุ่นตระกูล ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องจักรกลการเกษตร สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “สำหรับในปีนี้มีอีกหนึ่งกิจกรรมพิเศษที่เป็นเรื่องน่ายินดี คือพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) การต่ออายุการร่วมจัดงาน3 ฝ่าย ประกอบด้วย กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องจักรกลการเกษตร สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยและมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ไปอีก 3 ปี เพื่อความต่อเนื่องในการร่วมจัดงานฯ” โดย รองศาสตราจารย์ นายสัตวแพทย์ ดร.อนุชัย ภิญโญภูมิมินทร์ รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า “ความร่วมมือ3 ฝ่ายนี้ จะเป็นพลังขับเคลื่อนอันสำคัญในการถ่ายทอดเทคโนโลยีไปสู่เกษตรกรไทย เพื่อให้สามารถยกระดับการทำเกษตรกรรมตามแนวทางเกษตรอัจฉริยะได้ โดยผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าในอนาคตอันใกล้งานนี้จะสามารถก้าวขึ้นเป็นงานด้านเครื่องจักรกลการเกษตรขนาดกลางและเล็กที่ดีที่สุดงานหนึ่งของโลกได้”



งาน ThaiTAM 2019 มีกำหนดจัดระหว่างวันที่ 1-10 ธันวาคม 2562  โดยในวันที่ 2 ธันวาคม 2562กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศมีกำหนดนำคณะผู้ซื้อไปเข้าร่วมพิธีเปิด ณ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน เพื่อให้ได้รับฟังนโยบายขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเครื่องจักรกลการเกษตรจากภาครัฐและภาคเอกชนของไทย ได้รับชมการสาธิตการใช้เครื่องจักรบนแปลงนาสาธิต และได้เดินชมสินค้าและนวัตกรรมใหม่ๆ ภายในงาน เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจในสินค้าก่อนการเจรจาการค้า ซึ่งมีกำหนดจัดในวันที่ 3 ธันวาคม 2562 และวันสุดท้ายจะเป็นวันที่ทั้งสองฝ่ายยังจะสามารถติดตามผลการเจรจาและเจรจาการค้าเพิ่มเติมได้ ทั้งนี้ การส่งออกเครื่องจักรกลการเกษตรในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2562 (ม.ค. –ก.ย.) มีมูลค่า 22,177 ล้านบาท (ประมาณ 618.74 ล้านเหรียญ) และคาดการณ์ว่างานในครั้งนี้จะช่วยผลักดันให้มูลค่า
การส่งออกเครื่องจักรกลการเกษตรของไตรมาสสุดท้ายของปี 2562 เพิ่มขึ้นหรือขยายตัวได้

กลุ่มงานส่งเสริมภาพลักษณ์สินค้าเกษตรและอุตสาหกรรม
สำนักส่งเสริมการค้าสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรม





ความคิดเห็น